ข้อบังคับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยว่าด้วย บทบาท หน้าที่ และการดำเนินงาน พ.ศ. 2536
แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564
เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงว่าด้วยกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2532 และมติคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2536 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2536 และโดยมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 เห็นเป็นการสมควรให้ปรับปรุงข้อบังคับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยบทบาท หน้าที่ และการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาท หน้าที่ และการดำเนินงานในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา จึงมีมติเห็นชอบให้ตราข้อบังคับ กสพท เพิ่มเติม ข้อที่ 12 ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย”
ข้อ 2 “กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย”
ชื่อภาษาอังกฤษ “Consortium of Thai Medical Schools”
ชื่อย่อ กสพท, COTMES
ข้อ 3 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 4 ในข้อบังคับนี้
“สถาบันแพทยศาสตร์” หมายความว่า คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ และสถาบันการศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะแพทยศาสตร์
“กลุ่มสถาบัน” หมายความว่า กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
“สถาบันสมาชิก” หมายความว่า สถาบันแพทยศาสตร์ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
“คณบดี” หมายความว่า คณบดีคณะแพทยศาสตร์ที่เป็นสถาบันสมาชิก
“ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์ หรือสถาบันการศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่าคณะแพทยศาสตร์ ที่เป็นสถาบันสมาชิก
“คณะกรรมการอำนวยการ” หมายความว่า คณะกรรมการอำนวยการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
“คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
หมวดที่ 1 บททั่วไป
ข้อ 5 วัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบันมีดังต่อไปนี้
- เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา วิจัย และบริการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพในทุกระดับ ให้สอดคล้องและสนองตอบต่อนโยบายและปัญหาการสาธารณสุขของประเทศ
- เพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนความรู้วิชาการด้านการศึกษาแพทยศาสตร์ และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างสถาบันสมาชิกด้วยกัน และระหว่างสถาบันสมาชิกกับสถาบันที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการด้านวิชาการแพทย์และสาขาวิชาการที่เกี่ยวข้อง เพื่อความก้าวหน้าของการศึกษาแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพและการสาธารณสุขของประเทศ
- เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อคิดเห็นและเสนอต่อรัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ในด้านการพัฒนาการศึกษาแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ และการสาธารณสุขของประเทศไทย
- เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนางาน บุคลากร และระบบข้อมูลกลางของงานทางด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ให้ทันสมัย ก้าวหน้า และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- เพื่อเป็นสถาบันทางวิชาการและไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ข้อ 6 กลุ่มสถาบันอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
- ค่าบำรุงและเงินสมทบค่าดำเนินการจากสถาบันสมาชิก
- การสนับสนุนจากองค์กรภายในหรือต่างประเทศ
- เงินบริจาคจากบุคคลหรือองค์กรต่างๆ
- รายได้หรือผลประโยชน์อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการเห็นสมควร
การบริหารและการจัดการด้านการเงินและทรัพย์สินให้เป็นไปตามระเบียบของกลุ่มสถาบัน
หมวดที่ 2 บทบาทและหน้าที่
ข้อ 7 กลุ่มสถาบันมีบทบาทและหน้าที่ดังต่อไปนี้
- กำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้สนองตอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่มสถาบัน และความประสงค์ของสถาบันสมาชิก
- เป็นตัวแทนสถาบันสมาชิกทั้งหมด หรือแต่ละสถาบันในการดำเนินกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน
- ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการอำนวยการเห็นสมควร และที่ไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน
หมวดที่ 3 การดำเนินงาน
ข้อ 8 คณะกรรมการอำนวยการ
- องค์ประกอบ
- คณบดีหรือผู้อำนวยการของสถาบันสมาชิกเป็นกรรมการ
- ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการในข้อ 8.1.1 เป็นกรรมการ
- เลขาธิการ เป็นกรรมการ
- รองเลขาธิการคนหนึ่ง ซึ่งเสนอแนะโดยเลขาธิการ เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณบดีหรือผู้อำนวยการของสถาบันสมาชิกของสถานที่จัดประชุมกรรมการอำนวยการแต่ละครั้งเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการครั้งนั้นๆ ถ้าการประชุมครั้งใดจัดนอกสถาบันสมาชิก ให้คณะกรรมการอำนวยการพิจารณาเลือกประธานคนหนึ่งจากคณบดีหรือผู้อำนวยการสถาบันสมาชิกที่เข้าประชุม
- อำนาจหน้าที่
- กำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน และการจัดรูปแบบองค์กรให้ตอบสนองการดำเนินงาน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน โดยไม่ขัดต่อนโยบายของสถาบันสมาชิก
- พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการหรือกิจกรรมพิเศษที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของกลุ่มสถาบันและสถาบันสมาชิก
- ให้การสนับสนุน เสริมสร้าง และริเริ่มกิจกรรม รวมทั้งโครงการเฉพาะกิจ ที่ตอบสนองความต้องการของประเทศในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน
- สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ แก่สถาบันสมาชิก และสถาบันอื่นๆ ในขอบข่ายที่ไม่ขัดต่อนโยบายของกลุ่มสถาบัน
- พิจารณาการเข้าเป็นสมาชิกหรือออกจากสมาชิกของกลุ่มสถาบัน ของสถาบัน การศึกษาต่างๆ
- พิจารณาแต่งตั้ง ถอดถอน เลขาธิการของกลุ่มสถาบัน และรองเลขาธิการกลุ่มสถาบัน หรือตำแหน่งหน้าที่อื่นใดตามความเหมาะสม
- พิจารณาระเบียบ ข้อบังคับ และข้อกำหนดอื่นใด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของกลุ่มสถาบัน
- พิจารณางบประมาณและควบคุมการดำเนินงานด้านการเงินของกลุ่มสถาบัน
- พิจารณามอบหมายหน้าที่รับผิดชอบให้กับบุคคล หรือคณะบุคคลต่างๆ เพื่อดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน
- คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมการอำนวยการ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ และต้องไม่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือตำแหน่งที่เทียบเท่าในสถาบันใดๆ ในขณะนั้น และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ในกรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งคณะกรรมการอำนวยการอาจพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้เป็นการเฉพาะคราว
- เลขาธิการ พิจารณาแต่งตั้งจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งคณบดี หรือตำแหน่งที่เทียบเท่าในสถาบันสมาชิกเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องไม่ดำรงตำแหน่งอธิการบดี รองอธิการบดี หรือคณบดี หรือตำแหน่งที่คณะกรรมการอำนวยการพิจารณาว่าเทียบเท่าอยู่ในขณะนั้น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3
- วาระการดำรงตำแหน่งของบุคคลในข้อ 8.3
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้
- เลขาธิการ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้
ในกรณีที่ตำแหน่งเลขาธิการว่างลงก่อนครบวาระ ให้คณะกรรมการอำนวยการ แต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งดำรงตำแหน่งขึ้นใหม่
รองเลขาธิการ มีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระของเลขาธิการที่เป็นผู้เสนอแต่งตั้ง
- อำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ
- รับผิดชอบการดำเนินงานของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน และนโยบายของคณะกรรมการอำนวยการ
- รับผิดชอบงานด้านการจัดการ การเงิน บุคคล และหน้าที่อื่นๆ ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของกลุ่มสถาบัน
- เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร ตามข้อ 9
- จัดเตรียมงบประมาณประจำปี เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการ
- ติดต่อประสานงานระหว่างกลุ่มสถาบันกับสถาบันสมาชิกและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เป็นผู้รวบรวม และเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยขน์ต่อสถาบันสมาชิก
- จัดทำรายงานผลการดำเนินงานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการ
- พิจารณาเลือกรองเลขาธิการคนหนึ่ง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการให้ทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ
- ดำเนินงานอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอำนวยการ
ข้อ 9 คณะกรรมการบริหาร
- องค์ประกอบ
- เลขาธิการเป็นประธานกรรมการ
- รองเลขาธิการเป็นกรรมการ
- กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากสถาบันสมาชิก สถาบันละ 1 คน เป็นกรรมการ
- ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกิน 3 คน เป็นกรรมการ คุณสมบัติและการแต่งตั้ง ให้เป็นไปตามข้อ 8.3.1
ให้คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งรองเลขาธิการคนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการ ตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการ
- อำนาจหน้าที่
- จัดเตรียมโครงการและกิจกรรมพิเศษของกลุ่มสถาบัน เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการ หรือตามที่คณะกรรมการอำนวยการมอบหมาย
- ริเริ่มโครงการหรือแนวทางการดำเนินงานของกลุ่มสถาบันในขอบข่ายที่สนองตอบวัตถุประสงค์ของกลุ่มสถาบัน
- เสนอแนะเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการอำนวยการ
- ดำเนินการในเรื่องที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอำนวยการ
- วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการตามข้อ 9.1.3 ให้เป็นไปตามวาระการดำรงตำแหน่งของคณบดีหรือผู้อำนวยการที่เป็นผู้เสนอรายนาม
ข้อ 10 คณะกรรมการดำเนินการ โครงการ/เฉพาะกิจ
- องค์ประกอบ
- เลขาธิการหรือรองเลขาธิการ หรือกรรมการบริหารที่ได้รับมอบหมาย หรือทั้งเลขาธิการ รองเลขาธิการ และกรรมการบริหาร
- ผู้ที่คณะกรรมการอำนวยการเห็นสมควร
- หน้าที่ เพื่อดำเนินการโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จ และเสนอผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการอำนวยการ ตามลำดับ
ข้อ 11 คณะที่ปรึกษา
คณะกรรมการอำนวยการอาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และ/หรือ ผู้มีประสบการณ์ด้านต่างๆ ในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการของกลุ่มสถาบัน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละ 2 ปี
ข้อ 12 ให้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจปรับเปลี่ยนข้อบังคับหรืองดเว้นการใช้ข้อบังคับเฉพาะข้อและเฉพาะครั้ง โดยต้องเป็นมติเห็นชอบจากกรรมการอำนวยการโดยตำแหน่ง ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของกรรมการอำนวยการโดยตำแหน่งที่เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ต้องมีกรรมการอำนวยการโดยตำแหน่งเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าสามในสี่ขององค์ประชุมกรรมการอำนวยการ
ประกาศ ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565
(ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อาวุธ ศรีศุกรี)
เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย